การควบรวมกิจการของ DTAC และ TRUE ทำได้จริง

ในช่วงเดือนที่ผ่านมา หลาย ๆ คนอาจจะได้ทราบข่าวการเข้าซื้อกิจการของยักษ์ใหญ่แห่งวงการการสื่อสาร และโทรคมนาคมของประเทศไทย ระหว่าง บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) จริง ๆ แล้วดีลที่กล่าวอ้างนั้น ไม่ใช่เป็นการเข้าซื้อกิจการอย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจ แต่เป็นการควบรวมกิจการค่าย DTAC และ TRUE เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งสามารถทำได้ และไม่ขัดต่อกฎหมาย แล้วกรณีนี้จะส่งผลอย่างไรกับประชาชน? จะเป็นการผูกขาดทางการตลาดหรือไม่? ศึกษาเพิ่มเติมได้เลยที่นี่!

การควบรวมกิจการระหว่างทรู และดีแทค หากไม่ใช่การเข้าซื้อกิจการ ตามกฎหมายแล้วสามารถทำได้จริง โดยจะต้องได้รับการเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นของทั้ง 2 บริษัท ผลปรากฏว่า เสียงเกินกว่า 90% ให้ความเห็นชอบ จึงเกิดการควบรวมกิจการดังกล่าว ส่วนทาง กสทช. ได้มีมติเสียงข้างมากเป็นการรับทราบถึงการรวมธุรกิจของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) โดยต้องมีเงื่อนไขในการกำกับดูแลด้วยมาตรการเฉพาะในด้านต่าง ๆ เพิ่มเติม

ดีลดีแทค-ทรู ส่งผลอย่างไร?

การควบรวมบริษัททั้งสอง นับว่าเป็นการรวมตัวกันเพื่อความแข็งแกร่ง และช่วยต่อยอดให้อุตสาหกรรมโทรคมนาคมในประเทศไทยเข้าสู่ระดับสากลมากขึ้น โดยไม่ได้ส่งผลกระทบในเรื่องการคิดค่าบริการของประชาชน (เนื่องจากมีเงื่อนไขการกำกับดูแลจาก กสทช. อยู่) และอาจทำให้เกิดบริการที่หลากหลาย ซึ่งตอบโจทย์ต่อการใช้งานของประชาชนมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นประโยชน์ของการควบรวมบริษัท จึงเป็นผลดีต่อตัวผู้ใช้งานมากกว่า โดยเฉพาะอุตสาหกรรมโทรคมนาคมที่มีการผสานกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดเป็นบริการระบบดิจิทัล หรือ Web3 ที่ทันสมัย และน่าใช้งานมากกว่า

TRUE และ DTAC

2 ค่ายทรู ดีแทคผนึกกำลัง เป็นการผูกขาดทางการตลาดหรือไม่?

การที่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมอันดับที่ 2 และ 3 ของไทยได้ผนึกกำลังกัน อาจทำให้ประเทศไทยเข้าสู่สภาพตลาดแบบกึ่งผูกขาด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางสำนักงาน กสทช. ได้ดำเนินการควบคุมด้วยขอบเขตอำนาจทางกฎหมายในการป้องกันการผูกขาดด้วยการเรียกคืนคลื่นความถี่ที่เกินความจำเป็น การสร้างมาตรการในการกำกับดูแลด้านราคา การให้สิทธิ์ลูกค้าในการเลือกใช้ (แยกแบรนด์เป็นระยะเวลา 3 ปี) การคงคุณภาพด้านการให้บริการ การใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน และขจัดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล (Digital divide) รวมทั้งการสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยเพื่อลดอุปสรรคในการเข้าสู่ตลาดด้วย ในอนาคตอันใกล้นี้ อาจกลายเป็นจุดกำเนิดของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประเทศไทยก็เป็นได้

ซีรีส์ยอดนิยมของคนไทยบน Netflix

การดูซีรีส์ นับว่าเป็นหนึ่งในกิจกรรมแก้เบื่อยอดนิยมของคนไทย โดยเฉพาะการดูผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ชื่อว่า Netflix หรือเน็ตฟลิกซ์ที่จัดเต็มทั้งซีรีส์ ละคร ภาพยนตร์และสารคดีที่มาจากทั่วทุกมุมโลกให้ดูกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง แถมยังมีรายการอัพเดทใหม่ตลอดทั้งปี จะมีเรื่องไหนที่น่าติดตามบ้างไปดูกันเลย!

  • Lupin

ซีรีส์ในแนวสืบสวนสอบสวนที่มีการดัดแปลงมาจากนวนิยายสุดคลาสสิค “The Arrest of Arsène Lupin” เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่เชื่อว่า พ่อของตัวเองถูกใส่ร้ายว่าขโมยสร้อยเพชรมูลค่าหลายพันล้านของตระกูลมหาเศรษฐี เขาจึงได้ทำการสืบสวนคดีเพื่อล้างมลทินให้แก่พ่อ โดยใช้วิธีเดียวกับจอมโจรลูแปงในหนังสือที่พ่อได้ทิ้งไว้ให้ก่อนฆ่าตัวตาย สามารถติดตามความบ้าบิ่น ดีเดือดของชายคนนี้ได้ที่ https://www.netflix.com/th/

  • Riverdale

อีกหนึ่งซีรีส์แนวดราม่าและอาชญากรรมของกลุ่มวัยรุ่น ยาวนานถึง 5 Season ที่เน็ตฟลิกซ์แนะนํา โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากการหายตัวไปของเจสัน บลอสซั่มจนกลายมาเป็นเรื่องราวอันมืดดำในโรงเรียนไฮสคูลริเวอร์เดล พวกเขาจึงต้องเกาะกลุ่มกันไว้ให้แน่นเพื่อร่วมกันไขปริศนาการหายตัวไปของเจสันก่อนที่จะสายจนเกินไป หนังเรื่องนี้มีทั้งปมความรัก มิตรภาพ ยาเสพติดและสังคม ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้นต้องไปติดตามกันดู

  • Stranger Things

ซีรีส์แนว Sci-Fi ลึกลับ ระทึกขวัญและเหนือธรรมชาติที่มีให้ติดตามถึง 4 Season ด้วยกัน เริ่มต้นจากการหายตัวไปของเด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งแม่ของเขาได้ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆให้มาช่วยกันตามหาลูกชายของเธอ จนกระทั่งพบว่าการหายตัวไปของลูกชายนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทดลองบางอย่างของรัฐบาล เรื่องราวจะน่าติดตามและน่าลุ้นขนาดไหนสามารถเช็คดูได้ที่ netflix

ข้อดีของการใช้บัตรเงินสดที่ทำให้หลายๆคนสนใจที่จะสมัครบัตรเงินสดออนไลน์

สมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์ ATM

บัตรเงินสด VS บัตรเครดิต

การสร้างสภาพคล่องการเงินนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกๆคน โดยเฉพาะคนที่เพิ่งเริ่มทำงานหรือรายได้ยังไม่มากนัก การจะซื้ออะไรที่มีมูลค่าสูงขึ้นมาหน่อยก็อาจจะเป็นเรื่องยาก หากต้องใช้ประวัติการเงินของตัวเองเพื่อเป็นการค้ำประกัน

การเพิ่มช่องทางในการสร้างกระแสเงินสดในกระเป๋าก็เป็นอีกหนทางที่ๆหลายคนมองไว้ ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิตหรือบัตรเงินสด ซึ่งแน่นอนว่าอย่างน้อยก็ปลอดภัยจากการกู้เงินนอกระบบ

ในบทความนี้เราจะมารู้จักกับบัตรเงินสดกันว่า ทำไมต้องเราใช้ และการสมัครบัตรเงินสดออนไลน์ต้องทำอย่างไรบ้าง

หลายๆคนมักจะสับสนระหว่างบัตรเครดิตกับบัตรเงินสด มาดูความแตกต่างกันค่ะ

วิธีการใช้บัตรเงินสดนั้นคือง่ายๆเลยค่ะ ต้องกดเงินสดออกมาใช้จากตู้เอทีเอ็ม โดยที่เราไม่สามารถนำมารูดและเพื่อซื้อของออนไลน์ได้ และที่สำคัญอัตราดอกเบี้ยนั้นต่างกันมาก บัตรเครดิตจะคิดอัตราดอกเบี้ยเป็นรายวัน ส่วนบัตรเงินสดสามารถใช้ไปได้เรื่อยๆตามวงเงิน เมื่อชำระคืนก็จะได้ยอดตามที่ได้รับอนุมัติ

การกดเงินสดออกมาใช้บัตรเงินสดนั้นสามารถกดออกมาได้เลยจากตู้เอทีเอ็มโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมในการกดโดยจำนวนที่จะกดนั้นขึ้นอยู่กับวงเงินที่ได้รับอนุมัติ โดยข้อดีคือถ้าคุณไม่กดเงินสดออกมาคุณก็จะยังไม่มีหนี้ ซึ่งเมื่อฟังดูแล้วก็เป็นทางเลือกที่ดีอย่างนึงสำหรับคนที่ยังไม่มีเงินเก็บและต้องการแหล่งเงินสดสำรอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องระมัดระวังการใช้จ่ายของตัวเองนะคะ บางคนพอมีบัตรแล้วก็หลงคิดว่า เอ๊ะ เรามีเงินนี่น่าไปซื้อนู่นซื้อนี้ได้ การมีเงินสำรองยิ่งต้องมีวินัยกับตัวเองค่ะ

ข้อเสียของบัตรเงินสด

แน่นอนว่าข้อเสียที่ใหญ่ที่สุดของบัตรเงินที่ทำให้หลายๆคนต้องคิดหนักคืออัตราดอกเบี้ย เพราะเมื่อเทียบกับเงินด่วนวิธีอื่นๆ นอกจากเงินกู้นอกระบบแล้ว ยังมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงที่สุดเลยค่ะ อยู่ที่ 28% ต่อปี และยังคิดดอกเบี้ยเป็นรายวันด้วย เช่น ถ้าคุณถอนเงินสดออกมาใช้ในวันเดียว และชำระคืนเต็มตามจำนวนที่นำออกมา ก็ยังต้องจ่ายดอกเบี้ยอยู่ดี

สมัครบัตรเงินสดออนไลน์ต้องทำยังไง เตรียมอะไรบ้าง

การสมัครบัตรเงินสดออนไลน์นั้นง่ายมากเลยค่ะ เพียงแค่เตรียมเอกสารดังต่อไปนี้

  • เอกสารยืนยันตัวตน เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาบัตรข้าราชการหรือสำหรับบัตรรัฐวิสาหกิจ
  • เอกสารยืนยันรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน เอกสารรับรองเงินเดือน สำเนาใบแจ้งยอดฝากย้อนหลัง 3 เดือน
  • บัญชีเงินฝาก สำเนาบัญชีฝากหน้าแรกเพื่อโอนเงินเข้า

เมื่อเข้าใจข้อดีข้อเสียของบัตรเงินสดแล้ว ก็ลองนำไปพิจารณาเข้ากับสถานะการเงินของเราดูนะคะว่าเป็นทางเลือกที่เหมาะหรือเปล่า หากสนใจ อ่านต่อได้ที่นี่ https://www.sabaikrapao.com

เว็บซุบซิบนินทา ข่าวดาราที่คุณอาจคาดไม่ถึง

การติดตามข่าวดารานั้น ถือว่าเป็นการเสพสื่อบันเทิงที่จะช่วยให้เราได้รับความเพลิดเพลิน มีความสุขมากยิ่งขึ้น คนที่ติดตามข่าวซุบซิบนินทาเป็นประจำจะมีความสุขกับการได้ติดตามข่าวดาราอย่างมาก เพราะว่าข่าวพวกนี้จะช่วยให้เราสนุกสนานกับการติดตามอ่าน มีเรื่องน่าสนใจให้เราค้นหาและติดตามอยู่เสมอ คนอ่านก็สนุกสนานไปด้วย ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่มีความเครียดได้ง่าย ทำงานหนักแล้วรู้สึกเหนื่อยรู้สึกเครียด แนะนำว่าการติดตามอ่านข่าวซุบซิบนินทาจะช่วยให้คุณหายเหนื่อยหายเครียดได้เช่นกัน เพราะเรื่องดารานั้นถือได้ว่าเป็นเรื่องที่สนุกสนาน ยิ่งข่าวลับ การแอบคบกันหรือข่าวศัลยกรรมที่มีการขุดคุ้ยออกมา จะทำให้เราติดตามอ่านอย่างเมามัน บทความนี้เราจะมารู้จักเว็บที่รวบรวมข่าวซุบซิบนินทาของพวกดารา เพื่อเก็บเอาไว้อ่านคลายเครียดในช่วงที่เราเครียดมากๆ

เว็บ Gossipstar ของ Mthai เป็นเว็บที่มีนักข่าวประจำเว็บที่เก่งมากๆ สามารถติดตามเรื่องซุบซิบนินทาของดาราที่คุณจะต้องทึ่งมาฝากให้คุณได้อ่านอย่างสนุกสนานเมามันแน่นอน รับรองว่าการได้มาอ่านข่าวซุบซิบนินทาจากเว็บนี้ คุณจะได้รับข่าวดาราอัพเดตก่อนใคร ไม่ว่าดาราคนไหนแอบคบกับใครหรือแอบไปทำอะไรไว้ที่ไหน รับรองเลยว่าคุณจะได้สนุกสนานกับการตามคุ้ยข่าวดารา แถมยังมีการชี้โพรงให้กระรอก ให้เราไปค้นต่อกันเองอีกด้วย สนุกสุดๆไปเลย

เว็บ Gossip ของ Sanook เป็นอีกเว็บไซต์ที่มีการรวบรวมข่าวซุบซิบนินทาของเหล่าดารานักแสดงจากทุกช่องเอาไว้เยอะมาก หากคุณติดตามใครอยู่เป็นพิเศษ รับรองเลยว่าคุณจะได้เห็นข่าวฉาวของคนนั้นอย่างแน่นอน  ไม่แน่อาจจะตกใจเพราะคนที่คุณกำลังติดตามอยู่อาจจะมีคลิปหลุดออกมาก็ได้ แต่เว็บนี้ไม่ได้เป็นแหล่งเผยแพร่คลิป เพียงแต่ชี้ให้เห็นถึงข่าวฉาวที่เกิดขึ้นเท่านั้นเอง ไม่เพียงเหล่าดาราเท่านั้น แม้แต่เรื่องไฮโซหรือนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่เราเห็นหน้าจอทีวี หลายคนที่มีข่าวฉาวน่าสนใจเช่นกัน ทาง Gossip ของ Sanook ก็ได้รวบรวมเอาไว้มาเม้าท์ให้เราฟังได้อย่างสนุกปากเลยทีเดียว เรียกได้ว่าคนดังทุกคนมีข่าวฉาวกันหมด ทางแอดมินหามาให้ซุบซิบกันสนุกแน่นอน

เว็บซุบซิบของไทยรัฐ ต้องบอกเลยว่าตอนนี้ทาง Thairath ได้ปล่อยส่วนของการซุบซิบดารามาให้ชมกันแล้ว และมีตัวย่อระบุชัดเจน บอกเลยว่าถ้าไปติดตามก็จะรู้ได้เลยว่าดาราคนไหนไปปล่อยของไว้ที่ไหนบ้าง เพราะตัวย่อบอกชัดเจนเหลือเกิน หากคุณติดตามดาราคนไหนมากเป็นพิเศษและอยากเจาะลึกหรืออยากรู้จักดาราคนดังคนนั้นให้มากขึ้น เว็บไทยรัฐช่วยคุณได้แน่ๆ

เอเซีย ประกันภัย ประกันภัยของคนเอเชีย

บริษัทเอเชียประกันภัย มีชื่อจดทะเบียนอย่างเป็นทางการว่า บริษัทเอเชียประกันภัย 1950 จำกัด มหาชน เป็นอีกหนึ่งธุรกิจประกันภัยที่ประสบความสำเร็จ จนก้าวขึ้นสู่ธุรกิจมหาชน เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งที่บริษัทแห่งนี้ มีตัวเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับการประกันภัยอยู่หลายชนิดด้วยกัน ทั้งการประกันอัคคีภัย, ประกันเบ็ดเตล็ด, ประกันภัยรถยนต์ และประกันภัยทางทะเลและขนส่ง ครอบคลุมทุกชนิดประกันภัยที่จำเป็นต่อชีวิตและการดำเนินธุรกิจ

ประกันอัคคีภัยของเอเซีย ประกันภัย

กรมธรรม์ที่อยู่อาศัยรวมภัยพิบัติ ประกันชนิดนี้เป็นการคุ้มครองที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหาย จากไฟไหม้ หรือภัยพิบัติ ตามข้อตกลงและเงื่อนไข ครอบคลุมความเสียหายในกรณีที่เกิดฟ้าผ่า หรือภัยจากการเฉี่ยวชนจากยานพาหนะ อีกทั้งยังมีความคุ้มครองพิเศษเพิ่มเติม จ่ายค่าที่พักชั่วคราว และประกันภัยพิบัติ ตามกำหนด

ประกันภัยรถยนต์ของเอเซีย ประกันภัย

ตามปกติแล้ว ประกันภัยรถยนต์นั้นจะมีทั้งที่เป็นประเภทบังคับทำ (พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยทางรถยนต์) และประกันโดยสมัครใจ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภทย่อยๆ ได้แก่ การประกันภัยรถยนต์ ประเภทที่ 1, การประกันภัยรถยนต์ ประเภทที่ และการประกันภัยรถยนต์ ประเภทที่ 3 โดยแต่ละประเภทจะมีลักษณะพิเศษในด้านความคุ้มครอง แตกต่างกันไป

ประกันภัยเบ็ดเตล็ดของเอเชียประกันภัย

ประกันภัยในหมวดนี้ ได้แก่ ประกันภัยการเดินทาง 2+ Perfect Holiday คุ้มครองอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง รวมไปถึงการสูญหายของทรัพย์สินในระหว่างการเดินทาง ประกันที่อยู่อาศัย และประกันภัยความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ โดยเบี้ยประกันภัยประเภทนี้จะมีอัตราลดหลั่นเป็นขั้นบันได ตามจำนวนวันของการเดินทางของผู้สมัครกรมธรรม์ นอกจากนี้ประกันภัยเบ็ดเตล็ดของที่นี่ ยังมีแคมเปญ และประกันภัยราคาเดียว PA333 มีค่าเบี้ยประกันราคาต่ำที่ 333 บาท และได้รับการชดเชยในกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพเป็นการถาวร

ประกันภัยทางทะเลและขนส่งของเอเชียประกันภัย

ประกันภัยทางทะเลและขนส่งของที่นี่ มีคุณสมบัติโดดเด่นเมื่อเปรียบเทียบกับการทำประกันการขนส่งกับบริษัทในต่างประเทศในแง่ของเบี้ยประกัน เพราะที่นี่เมื่อเปรียบเทียบแล้ว จะมีอัตราถูกกว่า และยังสามารถเรียกค่าสินไหมชดเชยคืนได้ง่ายกว่าบริษัทในต่างประเทศอีกด้วย

ประกันทั้ง 4 ประเภทของบริษัท ประกันภัย เป็นอีกหนึ่งช่องทางเลือก สำหรับผู้บริโภคที่มองหาความมั่นคง และความปลอดภัยไว้ก่อน เพราะอุบัติเหตุนั้นเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และเกิดขึั้นได้โดยไม่คาดคิด การมีประกันภัยไว้ครอบครอง ทำให้เราไม่ต้องกังวลมากจนเกินเหตุ

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้มีบริษัทรับทำประกันภัยมากมาย และแต่ละบริษัทเองก็ออกแคมเปญ พร้อมแพคเกจที่ดึงดูดใจลูกค้าเป็นอย่างมาก ผู้บริโภคจึงควรแสวงหาประกันที่เหมาะสมกับสถานะของตัวเองมากที่สุด และไม่จำเป็นต้องทำประกันแบบพร่ำเพรื่อมากเกินความจำเป็น เพราะการจ่ายค่าเบี้ยประกันอาจเป็นภาระในภายหลังได้

ช่องทางสำหรับการติดต่อ และร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาที่พบ ลูกค้าของเอเชียประกันภัยสามารถส่งเรื่องร้องเรียนเข้ามาได้ ทั้งทางจดหมาย, ทางอีเมล์, ทางโทรศัพท์ และร้องเรียนได้ด้วยตนเอง โดยสามารถส่งเรื่อง พร้อมแนบหลักฐานประกอบการร้องเรียน ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชน, หนังสือมอบอำนาจ, หลักฐานอื่นๆ เข้ามาได้ที่บริษัทเอเชียประกันภัย เลขที่ 183 รีเจ้นท์เฮ้าส์​ ราชดำริ ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 โทร. 02-869-3399 ต่อหมายเลขภายใน 1601 หรือ 1104 และที่อยู่อีเมล์ complaint@asiainsurance.co.th

นอกจากนี้แล้ว ยังมีรายละเอียดในส่วนอื่นๆ เช่น ข้อปฏิบัติสำหรับลูกค้า เมื่อพบกับอุบัติเหตุ, วิธีการเคลมค่าสินไหม, วิธีการสั่งซื้อประกัน ทั้งช่องทางออนไลน์และผ่านตัวแทนฯ โดยผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดทั้งหมดได้ ผ่านช่องทางหน้าเว็บไซต์ของเอเซีย ประกันภัย พร้อมติดตามแคมเปญอัพเดท และข่าวสารความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของลูกค้าได้เช่นกัน https://www.asiainsurance.co.th/en/